ที่เที่ยวหน้าหนาว รับลมหนาว ดื่มด่ำบรรยากาศสุดฟินท่ามกลางหุบเขา ธรรมชาติป่าไม้ที่เขียวขจี ที่เที่ยวหน้าหนาวในประเทศไทยเรามีสถานที่เที่ยวสวยงามน่าไปอีกมากมายให้ได้ไปเยือน ไปดูกันว่ามีที่ไหนบ้างที่อากาศดี พร้อมให้เราไปรับบรรยากาศสุดฟิน
7 ที่เที่ยวหน้าหนาว 2025
1.ทุ่งแสลงหลวง จ.เพชรบูรณ์
ทุ่งแสลงหลวง จ.เพชรบูรณ์ อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 407 กม. เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ ได้ชื่อว่าเป็น ทุ่งหญ้าสะวันนา ไม่ว่าเราจะมองไปทางทิศไหน จะสวยงามไปหมดทุกด้าน เปิดตาสัมผัสกับไอหมอกที่ลอยอยู่ตรงหน้า มีให้เห็นทั้งตอนเช้าและตอนเย็น เหมือนภาพวาดมากๆ สูดอากาศเข้าปอดลึกรับอากาศบริสุทธิ์ สถานที่แห่งนี้ยังเงียบสงบ นักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำกับความสวยงาม สิ่งแวดล้อม บรรยากาศ ได้เต็มที่กันได้เลย
ที่ตั้ง : ณ ศาลาดุสิตา อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
2.เขาพะเนินทุ่ง จ.เพชรบุรี
เขาพะเนินทุ่ง จ.เพชรบุรี ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอยากออกเดินทางไปสัมผัสด้วยตาสักครั้ง ท่ามกลางธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตมากมาย หน้าหนาวความน่าสนใจอยู่ที่ทะเลหมอก แต่ไม่ว่าฤดูไหนเขาพะเนินทุ่ง จ.เพชรบุรี อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 214 กม. ความพิเศษของที่นี่จะมีทะเลหมอกให้เห็นอยู่ตลอดทุกฤดู ไปชมหมอกให้ถึงยอดเขาที่สูงในประเทศไทย สัมผัสแห่งสายน้ำทะเลหมอก กลางคืนของเขาพะเนินทุ่งก็ไม่แพ้กลางวัน เพราะคุณจะเห็นดาวนับล้านดวง เรียกได้ว่า น่าไปสักครั้งจริง ๆ ครับ
ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
3.หินสามวาฬ จ.บึงกาฬ
สำหรับ หินสามวาฬ จ.บึงกาฬ อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 746 กม. มีลักษณะเหมือนปลาวาฬตัวใหญ่โต ถ้าเราเคยเห็นรูปมุมสูงจะมีความเหมือนอย่างมากเรียงตัว 3 ก้อน ยิ่งหน้าหนาวเราสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นดูทะเลหมอก วิวทิวทัศน์ที่สวยงามสะดุดตา จะเห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ การจะขึ้นไปชมหมอกยามเช้าที่หินสามวาฬต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะด้วยสภาพของหินและน้ำค้างอาจจะทำให้ลื่นตกหน้าผาหรือล้มเกิดอุบัติเหตุได้ครับ
ที่ตั้ง : ป่าภูสิงห์ ตำบลโคกก่อง อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ
4.หมู่บ้านอีต่อง จ.กาญจนบุรี
บ้านอีต่อง เป็นหมู่บ้านเล็กๆ กลางหุบเขา ตั้งอยู่ที่ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ในช่วงปลายฝนต้นหนาวที่นี่จะกลายเป็นหมู่บ้านกลางสายหมอกที่มีเสน่ห์มากๆ คงจะเป็นอะไรที่สุดยอด เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวบ้าน ชมเหมืองแร่โบราณ และวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวรอบๆ หมู่บ้าน หมู่บ้านอีต่องมีอะไรดีมากกว่าที่คิด หมู่บ้านที่อยู่ท่ามกลางเมฆหมอก อากาศเย็นตลอดปี จิบชากาแฟในยามเช้า ชมเมฆหมอกกลางหมู่บ้านสลับกันกับภูเขาบริเวณโดยรอบ เหมาะกับผู้คนที่ใช้ชีวิตแบบสบาย ๆ นักท่องเที่ยวหลั่งใหลไปจำนวนมากครับในฤดูหนาว
ที่ตั้ง : ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
5.หมู่บ้านรักไทย จ.แม่ฮ่องสอน
หมู่บ้านที่ตั้งอยู่เกือบสุดชายแดนไทยพม่า หมู่บ้านรักไทย จ.แม่ฮ่องสอน ห่างจากกรุงเทพฯ 934 กม. บ้านรักไทยแห่งนี้ ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนานที่ในสมัยอดีตเคยเป็นทหารจีนคณะชาติหรือที่เรารู้จักกันว่า ก๊กมินตั๊ง ที่นี่ค่อนข้างมีอากาศเย็นสบายเกือบทั้งปี ยกเว้นช่วงหน้าหนาวนี่แหละ ที่จะหนาวมากเป็นพิเศษ กลางหมู่บ้านเป็นอ่างเก็บน้ำพลาดไม่ได้กับทะเลหมอกหนาปกคลุมไปทั่วทั้งหมู่บ้าน อากาศหนาว บรรยากาศดี จิบชาเรื่อยๆ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่เมืองจีน ถึงแม้จะไกลสุดเขตแดนสยาม แต่ห้ามพลาดเด็ดขาด สวยงามงามมากครับ
ที่ตั้ง : ตำบล หมอกจำแป่ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน
6.ม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่
ดอยม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่ เป็นส่วนหนึ่งของ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 725 กม. บรรยากาศที่หนาวเย็นบนยอดดอย สูดอากาศเข้าปอดลึกๆ ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับทะเลหมอกในยามเช้าของดอยม่อนแจ่ม เดินลัดเลาะชมสวนดอกไม้สักหน่อย สำหรับที่นี่สามารถนำเต็นท์มากางเพื่อรอชมหมอกชมดาวได้ ม่อนแจ่ม นี้แจ่มจริงสมชื่อจริงๆ
ที่ตั้ง : ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
7.ภูลมโล จ.เลย
สิ่งหนึ่งที่คู่กันกับลมหนาว คือความดงามของดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่พร้อมใจกันผลิดอกสีชมพูบานสะพรั่ง สร้างความประทับใจและดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือนเป็นประจำทุกปี ขึ้นชื่อว่าเป็น หุบเขาสีชมพ เพราะเป็นดินแดนที่มีดอกซากุระปกคลุมไปทั่วบริเวณ ภูลมโล จ.เพชรบูรณ์ห่างจากกรุงเทพฯ 458 กม. หน้าหนาวนี้ใจสั่นไปกับทุ่งดอกซากุระ สิ่งที่น่าตื่นเต้นไปไม่น้อยเห็นทีจะเป็นทะเลหมอก ทะเลหมอกของภูลมโลสวยงามอลังการขึ้นท่ามกลางดอกซากุระ เป็นบรรยากาศแสนจะโรแมนติก กลายเป็นทัศนียภาพที่งดงามตราตรึงและชวนให้ประทับใจไม่รู้ลืมเลยทีเดียว
ที่ตั้ง : ภูลมโลตั้งอยู่บนรอยต่อ 3 จังหวัด คือ จ.พิษณุโลก จ.เพชรบูรณ์ และ จ.เลย
อ่านบทความเพิ่มเติมมากมายได้ที่นี่ mateawthai.com