นโยบายพรรคก้าวไกล สำหรับพรรคส้มรักพ่อเขาได้เห็นปัญหาว่าบางจังหวัดนักท่องเที่ยวไปกระจุกตัวกันเยอะ จนธรรมชาติหรือทรัพยากรฟื้นตัวไม่ทัน และบางพื้นที่ไม่มีแรงกำลังพอที่จะหารายได้ ปัจจุบันหลังโควิดเกิดเทรนด์การท่องเที่ยวแบบใหม่แบบสับเกิดขึ้นมากมาย
ทั้ง ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การท่องเที่ยวแบบเที่ยวไปทำงานไป เป็นต้น จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนวิธีคิด นโยบายพื่อเพิ่มรายได้จากนักท่องเที่ยว และกระจายโอกาสไปยังพื้นที่อื่นในประเทศ เราไปส่องนโยบายเกี่ยวกับการท่องเที่ยวของพรรคก้าวไกลกัน
ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health & Wellness Tourism)
- กำหนดเป็นเป้าหมายการเป็น medical hub สอดคล้องกับเทรนด์ตลาดโลก เช่น บริการรักษาโรคมะเร็งโดยใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย ยกระดับธุรกิจเสริมความงาม
- ทำ MOU กับบริษัทประกันหรือระบบประกันสุขภาพของประเทศที่มีนักท่องเที่ยวการแพทย์เป้าหมาย
- สนับสนุนให้เกิด Wellness Economy ผ่าน Long Stay visa โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ ผู้สูงอายุต่างชาติที่มีรายได้สูง เช่น จัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ กายภาพบำบัด จัดตั้ง Retirement Center/Facility ตามจังหวัดในภูมิภาคต่าง ๆ โดยสร้างความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลเอกชนและธุรกิจโรงแรม
ท่องเที่ยวสีเขียว (Green Tourism)
- สนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงความยั่งยืน ผ่านการให้ผลตอบแทนเป็น Carbon Credit แก่ทั้งผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวสายสิ่งแวดล้อมที่มาใช้บริการ
- ให้แรงจูงใจแก่โรงแรมที่มีเป้าหมาย Net-Zero Carbon โรงแรมที่ใช้พลังงานหมุนเวียน 100 % และโรงแรมที่ลงทุนปรับอาคารเป็นอาคารประหยัดพลังงาน โดยให้การสินเชื่อ Soft loan ดอกเบี้ยต่ำ การลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลจากค่าใช้จ่ายที่ลงไปกับการปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานและการลดคาร์บอน
- ผลักดันให้เมืองท่องเที่ยวเป็นเมืองพลังงานหมุนเวียน 100% เช่น กระบี่ สมุย
- ส่งเสริม Green MICE ตั้งเป้าหมายการเป็นศูนย์กลาง MICE ที่สอดคล้องกับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม เช่น Net-zero carbon conference, RE100 conference
ท่องเที่ยว-ทำงาน (Workation)
- เปิดให้มี Visa เข้ามาทำงานระยะยาวขึ้นมาอีกประเภท ที่มีระยะสั้นกว่า LTR เดิม (1 ปี แต่สามารถต่อได้ทุกปี) แต่มีเงื่อนไขเรื่องรายได้ผ่อนปรนกว่าเงื่อนไขของ LTR อาทิ ลดจำนวนรายได้ต่อปี ไม่กำหนดวุฒิการศึกษา ไม่กำหนดรายได้ของบริษัทที่ทำให้ด้วย เพื่อให้มีเงื่อนไข Visa ที่สามารถดึงดูด Digital Nomad สู้กับประเทศอื่น ๆ ได้
ปลดล็อกผู้ประกอบการรายย่อยด้านการท่องเที่ยว
- แก้กฎกระทรวง ตาม พรบ. สำหรับสถานที่พักที่ไม่ใช่โรงแรม ให้เหมาะสมกับแต่ละประเภท ไม่ใช่ยึดมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด เช่น Homestay รับนักท่องเที่ยวได้ไม่เกิน 20 คน โดยมีเจ้าของบ้านพักอยู่ด้วย Camping ไม่มีสิ่งก่อสร้างถาวร Hostel รับนักท่องเที่ยวได้ตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยไม่ได้พำนักร่วมกับเจ้าของบ้าน Hotel รับนักท่องเที่ยวได้ตั้งแต่ 40 คนขึ้นไป
- แก้ไข พ.ร.บ. โรงแรม ให้ถ่ายโอนอำนาจและหน้าที่ ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อลดปัญหาคอขวดและความล่าช้าในการให้อนุญาตประกอบกิจการโรงแรม
- แก้ไขกฎกระทรวง ตาม พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร โดยกำหนดมาตรฐานอาคารที่ใช้ทำเป็นที่พักแรมให้ยึดตามประเภทของอาคาร และประเภทของที่พักแรมนั้น ๆ
1 เมือง 1 พิพิธภัณฑ์
- จัดให้มีพิพิธภัณฑ์ในทุกเมืองเพื่อเป็นจุดศูนย์กลางของการสร้างเรื่องเล่าในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่พื้นที่ โดยพิพิธภัณฑ์ในแต่ละจังหวัดนั้นจะดูแลและบริหารโดยกลไกของท้องถิ่นเป็นสำคัญโดยภาครัฐส่วนกลางจะจัดสรรงบเพื่อสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าวของท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ
ส่งเสริมเทศกาลดึงดูดนักท่องเที่ยวตลอดปี
- ส่งเสริมเทศกาลของแต่ละพื้นที่ โดยให้ความสำคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่
- สนับสนุนเทศกาลและกิจกรรมในระดับสากล (เช่น เทศกาลวิ่ง ปั่นจักรยาน มาราธอน ให้ติดเทรนด์ระดับโลก)
.
ขอบคุณและอ้างอิง : พรรคก้าวไกล
.
ครั้งหน้าเราจะชวนคุณไปเที่ยวไทยที่ไหนอีกบ้าง ติดตามได้ที่ Mateawthai – มาเที่ยวไทยไปด้วยกันกับเรา
Latest posts by CNteam (see all)
- 5 คาเฟ่ขนมไทย เติมความหวาน รสชาติดั้งเดิมบรรยากาศแบบใหม่ - August 8, 2024
- สงกรานต์ 2567 สนามบินจอดรถฟรี ทางด่วน และมอเตอร์เวย์ - April 11, 2024
- 5 คาเฟ่ ใกล้ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง 2024 เดินทางง่าย บรรยากาศดี - January 31, 2024