ผมเชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินหรือต้องรู้จักชื่อของ วัดพระพุทธบาท กันอยู่แล้ว เพราะมีอยู่ทั่วทั้งประเทศไทยเลย สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ใกล้ และไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร ฯ แต่ถ้าเป็นวัดแห่งนี้ที่มีประเพณีตักบาตรดอกไม้ที่โดดเด่นที่เดียวในไทยแล้วละก็ ต้องหมายถึง วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร จังหวัดสระบุรี อย่างแน่นอน แต่เพื่อความเป็นสิริมงคล เราไปสักการะรอยพระพุทธบาทที่ศักดิ์สิทธิ์ และทำความรู้จักกับประวัติของวัดสักนิดกันครับ
ประวัติของวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
ประวัติของวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหารนั้น เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก สร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2167 ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ปูชนียสถานที่สำคัญ คือ “รอยพระพุทธบาท” ที่ประทับไว้บนแผ่นหินเหนือไหล่ เขาสุวรรณบรรพตหรือเขาสัจจพันธคีรี รอยพระบาทมีความกว้าง 21 นิ้ว ยาว 60 นิ้ว ลึก 11 นิ้ว ถูกค้นพบในสมัยพระเจ้าทรงธรรม พระองค์ทรงเห็นว่าเป็นรอยพระบาทตามลักษณะ 108 ประการ จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างมณฑปชั่วคราว ครอบรอยพระพุทธบาทเอาไว้
ในต่อมาได้มีการสร้างต่อเติมกันอีกหลายสมัย และยังค้นพบรอยจารึกพระปรมาภิไธยย่อ จปร พื้นที่ก้อนหิน มีความสูงขนาดใหญ่ 160 เซนติเมตร เมื่อครั้นเสด็จนมัสการรอยพระพุทธบาท และต่อมาก็ได้มีการสร้างพระอุโบสถ และพระวิหารต่าง ๆ เพิ่มเติมขึ้นมานั่นเอง อีกทั้งในพงศาวดารยังบันทึกไว้ว่าพระมหากษัตริย์เกือบทุกพระองค์ตั้งแต่มีการค้นพบรอยพระพุทธบาทนี้ ได้เสด็จมานมัสการรอยพระพุทธบาทที่สระบุรีทุกปี ทำให้เกิดเป็นประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาที่จัดสืบทอดกันมาถึงปัจจุบัน
ลักษณะของพระมณฑป เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ที่ประกอบด้วยเครื่องยอดรูปปราสาท 7 ชั้น มุงกระเบื้องเคลือบสีเขียว มีซุ้มบันแถลงประดับทุกชั้น มีเสาย่อมุมไม้สิบสอง และปิดด้วยทองประดับกระจกโดยรอบ ฝาผนังด้านนอกปิดทองประดับกระจกเป็นรูปเทพพนม พุ่มข้าวบิณฑ์ บานประตูพระมณฑปเป็นงานจากศิลปกรรมที่ประดับมุกระดับชั้นเยี่ยมของเมืองไทย พื้นภายในปูด้วยเสื่อเงินสาน
และที่แนะนำว่าไม่ควรพลาด ก็คือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระพุทธบาท (พระวิหารหลวง) ซึ่งใช้เก็บรวบรวมศิลปวัตถุต่างๆ ทั้งเครื่องลายครามสังคโลก เครื่องทองสำริดโบราณ ศาสตราวุธโบราณ ฯลฯ ซึ่งเดิมวิหารหลวงนี้จะเปิดให้เข้าชมเฉพาะช่วงมีงานเทศกาลนมัสการพระพุทธบาท ในวันขึ้น 8 – 15 ค่ำ เดือน 4 และขึ้น 1 – 5 ค่ำ เดือน 3 เท่านั้น
ประวัติงานตักบาตรดอกไม้
ความเป็นมาของการตักบาตรดอกเข้าพรรษานั้น มีแจ้งในพุทธตำนานว่า นายมาลาการ เป็นผู้ทำหน้าที่นำดอกมะลิสดไปถวายพระเจ้าพิมพิสาร พระราชาแห่งเมืองราชคฤห์ เป็นประจำทุกวัน มาวันหนึ่งขณะที่นายมาลาการออกไปเก็บดอกมะลิอยู่ในสวน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์ กำลังเสด็จออกบิณฑบาตผ่านมา นายมาลาการเห็นดังนั้นจึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธาต่อพระพุทธองค์จึงนำดอกมะลิ ๘ กำมือ ไปถวายพระพุทธองค์
พระเจ้าพิมพิสารราชา ทรงทราบข่าวว่า พระศาสดาเสด็จออกบิณฑบาตมาถึงใกล้ๆ พระราชวังจนนายมาลาการได้พบ และถวายดอกมะลิบูชา พระราชาจึงเสด็จพระราชดำเนินไปถวายบังคมต่อพระศาสดา แล้วตามเสด็จพระศาสดาไปด้วยความเลื่อมใสศรัทธา พระเจ้าพิมพิสารเลยบำเหน็จรางวัลความดีความชอบ และพระราชทานสิ่งของทั้งปวงให้กับนายมาลาการ
นับแต่นั้นมานายมาลาการก็อยู่อย่างร่มเย็น ปราศจากทุกข์ใด ๆ ทั้งปวง ด้วยอานิสงส์ของการนำดอกมะลิบูชา แด่พระองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแทนการตักบาตร จากอานิสงส์ดังกล่าวแต่ครั้งพุทธกาล ชาวพุทธทั่วไปจึงถือเป็นประเพณี “ตักบาตรดอกเข้าพรรษา” เป็นประจำทุกปีตลอดจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
ประเพณีตักบาตรดอกไม้ มีที่สำคัญที่อยู่คู่กับวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหารมาอย่างช้านาน พี่น้องอำเภอพระพุทธบาท และอำเภอใกล้เคียง จะถือเอาวันเข้าพรรษาของทุกปีเป็นวันตักบาตรดอกไม้เข้าพรรษามาโดยตลอด เพื่ออนุรักษ์ และส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณีของท้องถิ่น กระทั่งมาเป็นประเพณีของจังหวัดสระบุรี และในปัจจุบันเป็นประเพณีระดับประเทศ ได้ชื่อว่า “เป็นประเพณีหนึ่งเดียวในโลก” โดยจัดงานเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น
แต่เนื่องจากพุทธศาสนิกชนมาร่วมทำบุญตักบาตรเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก จังหวัดสระบุรีจึงได้ทำการเพิ่มจำนวนวันเพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ มาร่วมงานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา ซึ่งนอกจากจะได้บุญกุศลอันยิ่งใหญ่กับการถวายดอกไม้เข้าพรรษาแด่พระภิกษุสงฆ์ที่เดินรับบิณฑบาตจากพุทธศาสนิกชนแล้ว พระภิกษุสงฆ์จะนำดอกไม้เข้าพรรษาไปสักการะรอยพระพุทธบาท อันจะส่งผลบุญกุศลให้ผู้ทำบุญตักบาตรได้ขึ้นสวรรค์อีกด้วย
การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธินผ่านอำเภอวังน้อยอำเภอหนองแคตำบลหินกองถึงสี่แยกสะพานต่างระดับสระบุรีให้เลี้ยวขวาเข้าถนนมิตรภาพ ตรงไปก็จะถึงตัวเมือง จากนั้นตรงไปเส้นลพบุรี เพชบูรณ์ ถึงแยกพุแคเลี้ยวซ้ายตรงไป สักพักทางเข้าวัดพระพุทธบาทอยู่ด้านซ้ายมือ อัตราค่าบริการ คนไทยไม่เสียค่าเข้าชม ชาวต่างประเทศคนละ 30 บาท
ข้อมูลของวัดพระพุทธบาท
- ที่อยู่ : ตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี 18120
- พิกัด : https://goo.gl/maps/Lky11FKHEstALqEh7
- เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน 07.00 – 17.00 น.
- โทร : 035-246-076
- เว็บไซต์ : –
มาเที่ยวไทยขอเสนอ : บทความรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทศไทย
- อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ที่เที่ยวเชียงใหม่ สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติกับวิวภาคเหนือ - October 26, 2023
- 5 ตลาดมือสอง ในกรุงเทพฯ หนึ่งตัวเลือกของเหล่านักช็อปราคาถูก - September 27, 2023
- 5 อุทยานแห่งชาติภาคอีสาน ปี 2023 เยี่ยมชมธรรมชาติ รับบรรยากาศบริสุทธิ์ - March 27, 2023